แหล่งท่องเที่ยว
วัดป่าขวางพระปางเลไลย์

ประวัติวัดป่าขวาง

 

วัดป่าขวาง  ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่  5  ตำบลรำแดง  อำเภอสิงหนคร  จังหวัดสงขลา  ซึ่งเป็นวัดโบราณที่มีความเก่าแก่ควรค่าแก่การศึกษา และเป็นวัดที่มีสายการปฏิบัติธรรมแบบธรรมยุติ  เป็นวัดที่อยู่ในชนบท  โดยดำเนินการจัดตั้งขึ้นเป็นวัดป่าขวาง เมื่อวันที่  22  มกราคม  พ.ศ.  2438  และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 6  ตุลาคม  พ.ศ.  2451

                                ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมีเจ้าอาวาสปกครองวัดกันมาเป็นจำนวน  6  รูป

                    พระสมุห์เอียด

                                พระเคลื่อน

                                พระสมหุห์คลิ้ว

                                พระครูโสภณศีราจาร(รักษาการเจ้าอาวาส)

                                พระครูกิตติศีลวัตร ( ท่านอาจารย์หลวงปู่เมฆ)

                                พระครูปริยัติกิจโกศล(รักษาการเจ้าอาวาสปัจจุบัน)

                                ประวัติทานอาจารย์ เคยดำรงต่ำเหน่งเจ้าคณะตำบลชะแล้  และพระอุปัชณาย์  เกิดวันที่ 22  มิถุนายน  พ.ศ.  2546  ณ  หมู่บ้านบางเขียด  จังหวัดสงขลา  มีพี่น้องร่วมบิดามารดา  ร่วมกัน 8 คนท่านเป็นคนที่ 3 ครั้นเมื่ออายุ  11  ปี ได้เข้ารับราชการที่โรงเรียนชะแล้  หลังจากศึกษาสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถม  4  ก็ช่วยงานที่บ้านอยู่ระยะเวลาหนึ่ง  จึงตัดสินใจบวชสามเณร  ณ ดีหลวงนอก ตำบลชิงโค  อำเภอสิงหนคร  จังหวัดสงขลา  เป็นเวลา 1 ปี เมื่ออายุครบ  20 ปี บริบูรณ์จึงได้อุปสมบทที่วัดภูตบรรพต  ตำบลชะแล้  อำเภอสิงหนคร  จังสงขลา  โดยมีพระครูโสภณศิลราจารเป็นพระอุปัชณาย์

                                หลังจากอุปสมบทแล้วได้จำพรรษาที่วัดภูตบรรพต โดยได้ศึกษาด้านปริยัติธรรมและได้ศึกษาในภาษาบาลีด้วยจนได้รับนักธรรมเอก  หลังจากนั้นจึงให้ความสนใจเกี่ยวกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน  จนได้ไปศึกษาแนวทางการปฏิบัติกับพระปัญญาพิศาล   ณ  วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาศีมาราม  กรุงเทพมหานคร  หลังจากศึกษาแล้วท่านก็ให้ความสนใจและตั้งใจเกี่ยวกบการปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อค้นหาและพบเจอกับสัจธรรม

                    จนกระทั่งปี  พ.ศ.  2498  ที่วัดป่าขวาง  ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่มีผู้ปกครองวัดและด้วยเหตุปัจจัยอื่น ๆ ทำให้ท่านต้องมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าขวางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

                                จากคำบอกเล่าของพระจิตต์  ถิรจิต โต  ผู้ซึ่งได้ปฏิสันถารกับท่านอาจารย์เล่าว่า เมื่อท่านตัดสินใจที่จะรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าขวางแล้ว ได้เดินทางมาถึงวัดป่าขวาง  ซึ่งครบกับวันเข้าพรรษา โดยที่วัดได้มีพระภิกษุและสามเณร  12  รูป พร้อมโยมผู้หญิง 3 คน  และลูกศิษย์วัด 4 คน  เมื่อรับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงขอแรงญาติโยมให้ช่วยกันสร้างโรงจงกลมสำหรับปฏิบัติธรรม  ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากญาติโยมวัดป่าขวางเป็นอย่างดี  จึงทำให้เกิดโรงจงกลมขึ้นแห่งแรกในอำเภอสิงหนคร  หลังจรากนั้นท่านอาจารย์ได้เริ่มอบรมพระภิกษุสามเณร และญาติโยมทั้งหลายเกี่ยวกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

                                ขณะเดียวกันได้อบรมสั่งสอนด้านปริยัติธรรมควบคู่กับการปฏิบัติด้วย  พร้อมสนับสนุนให้พระภิกษุในปกครองเข้าสอบธรรมสนามหลวงทุก ๆ ปี  จากนั้นยังผลักดันให้พระภิกษุสามเณรในปกครองไปศึกษาที่วัดอื่น เป็นต้น

                                นอกจากการปฏิบัติธรรมแล้ว ในส่วนของการพัฒนาพระอาจารย์ก็ไม่ได้ละเลยโดยสร้างและบูรณะถาวรวัตถุในวัดมากมาย  เช่น ศาลาการเปรียญ  กำแพงวัด  และที่สำคัญที่สุดคือ ท่านได้สร้างพระปางเลไลย์  ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางเลไลย์องค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก และในส่วนของสังคมนั้น อาจารย์ได้สร้างถนนไปหมู่บ้านรำแดง  โดยอาศัยแรงศรัทธาญาติโยม  เพื่อความสะดวกในการสัญจรของคณะพุทธบริษัททั้งหลายในชีวิตของเพศสมณะของท่านอาจารย์  ท่านยึดถือการวิปัสสนากรรมฐานเป็นชีวิตจิตใจโดยปฏิบัติธรรมและเผยแพร่อย่างจิงจังและเคร่งครัดจึงถึงวาระสุดท้าย